UFABETWINS หลังเสียงนกหวีดเป่าหมดเวลา 90 นาทีของการแข่งขันฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ปี 2013

เกมระหว่างทีมชาติไนจีเรีย กับ ทีมชาติตาฮิติ ดังขึ้น การแข่งขันจบลงด้วยการที่ทัพอินทรีมรกตไล่ถลุงทีมจากหมู่เกาะอันไกลโพ้นไปด้วยสกอร์ 6-1 แต่ปรากฏว่าบัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของสมาคมฟุตบอลทีมชาติตาฮิติกลับทวิตข้อความว่า “WE ARE THE CHAMPIONS!!!!” ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะพวกเขาสามารถยิงประตูคู่ต่อสู้ที่เป็นทีมระดับหัวแถวของโลกลูกหนัง เคยผ่านการเข้าร่วมศึกฟุตบอลโลกมาแล้วหลายต่อหลายครั้งได้สำเร็จ หลังจากที่ก่อนหน้านี้พวก

เขาพ่ายแพ้ให้กับทีมชาติสเปน 0-10 ต่อด้วยความปราชัยแก่ทีมชาติอุรุกวัยอีก 0-8 ดังนั้น การที่สามารถยิงประตูได้ พวกเขาจึงรู้สึกยินดีกับมันราวกับการคว้าแชมป์เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เรื่องราวนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าทีมชาติตาฮิติยังคงเป็นสมันน้อยในการแข่งขันฟุตบอลสนามหญ้า โดยในปัจจุบันพวกเขาก็ยังรั้งอยู่ที่อันดับ 161 ของฟีฟ่าแรงกิ้ง แต่สำหรับกีฬาที่ใกล้เคียงกันอย่างฟุตบอลชายหาด ทุกอย่างกลับต่างออกไป ตาฮิติ ไม่ใช่สมันน้อยให้ใครมายำใหญ่ใส่ได้

ง่ายๆ ตรงกันข้าม พวกเขากลับไปได้ไกลถึงขั้นคว้าตำแหน่งรองแชมป์โลกมาแล้วถึง 2 สมัยซ้อน (ส่วนทีมชาติไทยเคยไปไกลสุดได้เพียงอันดับ 4 ในปี 2002 แต่สำหรับการแข่งขัน 3 ครั้งล่าสุด ไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกเข้าไปได้) เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นได้อย่างไร? หาคำตอบได้ที่นี่ เกาะที่เล็กกว่ากรุงเทพฯ ก่อนจะไปถึงเรื่องของฟุตบอลชายหาด เรามาทำความรู้จัก ตาฮิติ กันก่อนดีกว่า เพราะเชื่อว่าหลายคนอย่าว่าแต่รู้จักเลย แค่เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาก็อาจขมวดคิ้วพร้อม

คำถามแล้วว่า “มันมีดินแดนชื่อนี้อยู่ด้วยหรือ?” เฟรนช์ โพลินีเชีย เป็นดินแดนของฝรั่งเศสในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ มีฐานะเป็น “เขตรัฐบาลกลางโพ้นทะเล” พร้อมกับ “ประเทศโพ้นทะเล” ซึ่งเป็นตำแหน่งเฉพาะตัว ประกอบด้วยกลุ่มเกาะหลายเกาะในภูมิภาคโพลินีเซีย โดย ตาฮิติ คือหนึ่งในนั้น และเป็นเกาะที่มีความเจริญด้านเศรษฐกิจสูงที่สุด รวมถึงจำนวนประชากรเยอะที่สุดด้วย ถึงแม้จะมีประชากรเยอะที่สุดในเฟรนช์ โพลินีเชีย แต่คำว่าเยอะที่ว่านั้นก็แค่เพียง

UFABETWINS

130,000 คนเท่านั้นเอง โดย 70% เป็นชาวเฟรนช์ โพลินีเชีย ท้องถิ่น ส่วนอีก 30% เป็นชาวจีนและชาวยุโรปที่อพยพเข้ามา จำนวนประชากรว่าน้อยแล้ว ขนาดพื้นที่ยิ่งน้อยเข้าใหญ่ เพราะนับรวมทั้ง ตาฮิติ มีพื้นที่เพียง 1,045 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น เมื่อเทียบกับกรุงเทพมหานครที่มีขนาด 1,569 ตารางกิโลเมตร ก็ถือว่าเกาะแห่งนี้เล็กกว่าพอสมควร เกาะตาฮิติเกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ จึงทำให้ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ล้อมรอบด้วยหาดทรายและแนวปะการัง

ส่วนในเรื่องของวัฒนธรรม ถึงแม้จะมีฐานะเป็นประเทศโพ้นทะเลของฝรั่งเศส ภาษาราชการเป็นภาษาฝรั่งเศส แต่ด้วยความไกลปืนเที่ยงของที่ตั้ง ดังนั้น ตาฮิติ จึงมีภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นของตัวเองเช่นกัน ด้วยสภาพภูมิศาสตร์แบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่กีฬาประจำชาติของพวกเขาคือการพายเรือแคนู ไม่ใช่ฟุตบอลชายหาดที่เราจะกล่าวถึงในบทความนี้แต่อย่างใด แล้วพวกเขามีความโดดเด่นด้านฟุตบอลชายหาดขึ้นมาได้อย่างไรกันนะ? อัศวินขี่ม้าขาวจากแดน

นาฬิกา สำหรับโลกกีฬาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ฟุตบอลชายหาดถือเป็นน้องใหม่มาก เพราะกีฬาชนิดนี้เพิ่งถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการโดยฟีฟ่าเมื่อปี 1992 ระบุกฎกติกาว่าผู้เล่นฝ่ายละ 5 คนรวมผู้รักษาประตูจะแข่งกันทำประตูฝ่ายตรงข้าม ในสนามทรายขนาด 37*28 เมตร และการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 3 พีเรียด พีเรียดละ 12 นาที ด้วยกฎกติกาแบบนี้ ประกอบกับพื้นสนามที่เป็นทรายร่วน ทักษะที่ใช้ในการเล่นจึงค่อนข้างแตกต่างจากฟุตบอลสนามหญ้า

นักฟุตบอลชายหาดไม่มีโอกาสได้เลี้ยงหรือส่งลูกเลียดพื้นมากนัก แต่พวกเขาจะใช้การเดาะบอล ส่งบอล รับบอล ภาคพื้นอากาศแทน และจะยิงประตูทันทีเมื่อมีโอกาสไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของสนามก็ตาม นอกจากทักษะการเดาะบอล เล่นกับลูกฟุตบอลที่ต้องคล่องแคล่วราวกับเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 แล้ว นักกีฬาฟุตบอลชายหาดจำเป็นต้องมีความฟิตสูงมาก ใครที่เคยเล่นฟุตบอลบนชายหาดน่าจะเข้าใจดีว่ามันต้องใช้แรงเยอะขนาดไหน กีฬาว่าใหม่แล้ว ตาฮิติ ยิ่งแล้วใหญ่

เพราะพวกเขาเพิ่งมีสมาคมฟุตบอลชายหาดในปี 2006 หรือเมื่อ 14 ปีก่อนนี้เอง พร้อมทัวร์นาเมนต์ OFC Beach Soccer Nations Cup ที่ก็เริ่มต้นจัดขึ้นในปีเดียวกัน โดยทัวร์นาเมนต์นี้คือการแข่งขันฟุตบอลชายหาดของภูมิภาคโอเชียเนีย มีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 5 ทีม ได้แก่ ตาฮิติ, หมู่เกาะโซโลมอน, วานูอาตู, นิว คาลาโดเนีย และ ตองกา โดยแชมป์จะได้รับตั๋วเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลกรอบสุดท้าย ในช่วงแรกหลังการก่อตั้ง ตาฮิติก็ไม่ต่างอะไรจากทีม

หมู่เกาะทั่วไป พวกเขาไม่สามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขัน OFC Beach Soccer Nations Cup 3 ครั้งแรกได้ โดยทำได้ดีที่สุด​เพียงแค่อันดับ 3 เท่านั้น โจนาธาน โทโรเฮีย นักฟุตบอลชายหาดทีมชาติตาฮิติตำแหน่งผู้รักษาประตูในช่วงเวลาดังกล่าวได้ให้คำนิยามทีมของเขาเอาไว้ว่า “เหมือนมีโค้ชอยู่คนหนึ่ง และเขาดึงเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงมาทำทีมฟุตบอลชายหาดด้วยกันเท่านั้นเอง” แต่ด้วยมาตรฐานที่ไม่ต่างกันมากนัก เพราะคู่แข่งทีมอื่นๆก็เป็นประเทศหมู่เกาะ

ด้วยกัน บวกกับความพยายามแบบงูๆปลาๆ ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ ในที่สุด ตาฮิติก็สามารถคว้าแชมป์ OFC Beach Soccer Nations Cup ได้สำเร็จในปี 2011 พร้อมคว้าตั๋วเข้าร่วมการแข่งขันศึกชิงแชมป์โลกฟุตบอลชายหาดในปีเดียวกัน ณ เมืองราเวนนา ประเทศอิตาลี ได้สำเร็จ…สำหรับประเทศหมู่เกาะไกลโพ้น นี่คือรางวัลแสนล้ำค่าเท่าที่จะจินตนาการได้แล้ว ลัดฟ้าสู่ประเทศอิตาลี ตาฮิติถูกจับให้อยู่ในกลุ่ม C ร่วมกับ รัสเซีย หนึ่งในมหาอำนาจแห่งวงการฟุตบอล

ชายหาด, ไนจีเรีย และ เวเนซุเอล่า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตาฮิติถูกมองว่าเป็นตัวเต็งอันดับสุดท้ายของการแข่งขัน ทุกคนคิดว่าพวกเขาน่าจะโดนยำเละอยู่ข้างเดียว โดยไม่สามารถยิงประตูได้ ทว่าเพียงนัดเปิดสนาม ตาฮิติก็ทำการช็อกชาวโลกเสียแล้ว เพราะประเทศที่ไม่มีใครคุ้นชื่อนี้กลับพลิกล็อกถล่มทลาย เอาชนะ เวเนซุเอล่า ไปได้ด้วยสกอร์ 5-2 หลายคนที่เคยมองข้ามก็เริ่มกลับมาให้ความสนใจทีมนี้ ก่อนที่สุดท้ายทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เพราะอีก 2 นัด

UFABETWINS

ที่เหลือ ตาฮิติ ก็โดน รัสเซีย กับ ไนจีเรีย ถล่มตามคาด หยุดเส้นทางการผจญภัยของพวกเขาไว้เพียงเท่านี้ เข้าสู่ปี 2013 (ฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลกจัดขึ้นทุก 2 ปี แตกต่างจากฟุตบอลโลกที่ 4 ปีจะมีครั้ง) นี่คือปีที่ชาวตาฮิติทุกคนรอคอย เพราะตาฮิติได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลก ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องเล่นรอบคัดเลือก และได้เข้าสู่รอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติในฐานะทีมเจ้าภาพ คนทั่วไปอาจจะคิดว่าการเป็นเจ้าภาพคงไม่ช่วย

อะไรมากนัก สุดท้ายพวกเขาก็น่าจะสิ้นสุดเส้นทางที่รอบแรกเหมือนเช่นเดิม แต่สำหรับชาวตาฮิติ ทัวร์นาเมนต์นี้มีความหมายมาก มันคือเวทีที่จะแสดงให้ชาวโลกเห็นว่านอกจากหาดทรายสวยงามแล้ว พวกเขาก็มีดีเรื่องกีฬาเช่นกัน ความมุ่งมั่นของสมาคมฟุตบอลชายหาดตาฮิติไม่ใช่เพียงแค่ลมปาก เพราะพวกเขาได้ แองเจโล ชิรินซี่ (Angelo Schirinzi) อดีตโค้ชฟุตบอลชายหาดทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในโค้ชที่ได้รับการยอมรับว่าเก่งกาจที่สุดของวงการ และเป็น

เจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการเล่นฟุตบอลชายหาดหลายเล่ม เข้ามาทำหน้าที่ดูแลทีม ชิรินซี่ทำงานร่วมกับฟีฟ่าในการเดินทางไปทั่วโลกเพื่อสัมมนาเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลชายหาดให้แพร่หลายยิ่งขึ้น และเมื่อเขาเดินทางมายังตาฮิติ ชิรินซี่ก็เล็งเห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของทีมๆนี้ เขาจึงอาสาเข้ามาวางรากฐานให้กับทีม “ผมมาถึงตาฮิติในปี 2012 และหลังจากนั้นผมก็สอนนักเตะทุกคนถึงหลักสูตรการเตะฟุตบอลชายหาดของฟีฟ่า ให้พวกเขาได้เข้าใจเกมนี้อย่างแท้จริง” ชิรินซี่กล่าว

โค้ชจากแดนนาฬิกาผู้นี้รู้แจ้งตั้งแต่วันแรกว่าลูกทีมของเขามีศักยภาพเป็นเลิศ ประเทศแห่งนี้เต็มไปด้วยชายหาด พวกเขาเตะฟุตบอลบนผืนทรายมาตั้งแต่จำความได้ บางคนเป็นชาวประมง บางคนเป็นนักเก็บมะพร้าว ดังนั้น เรื่องความฟิตจึงไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือพวกเขาไม่มีใครมาให้ความรู้อย่างถูกต้อง และในตอนนี้เขาคือคนที่กำลังเปิดประตูบานดังกล่าว นอกจากจะสอนเรื่องการเล่นแล้ว ชิรินซี่ยังใช้คอนเนคชั่นในวงการที่ตัวเองมีผลักดันทีมฟุตบอลชายหาดตาฮิติ

อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการพาพวกเขาทุกคนบิดลัดฟ้าไปร่วมซ้อมกับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์เป็นเวลาหลายสัปดาห์ หรือแม้แต่การติดต่อสโมสรฟุตบอลชายหาดอาชีพในประเทศสวิตเซอร์แลนด์และสเปนให้ดึงตัวนักเตะเหล่านี้ไปร่วมทีม และมันก็ได้ผลเป็นอย่างดี

 

คลิ๊กเลย >>>  https://www.ufabetwins.com/

อ่านข่าวเพิ่ม >>>  บ้านผลบอล