แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยโดน อลัน แฮนเซ่น ตำนานกองหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่หันไปทำงานเป็นนักวิเคราะห์เกมตราหน้าว่าไม่มีทางคว้าแชมป์อะไรทั้งนั้นด้วยการส่งเด็กลงสนาม เมื่อปี 1995 แต่สุดท้ายต้องหน้าแหกเพราะจบฤดูกาล ทัพ “ปีศาจแดง” เถลิงแชมป์อย่างยิ่งใหญ่
ยิ่งไปกว่านั้น เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังใช้เด็กๆ ในชุด “คลาส ออฟ 92” ไล่ล่าความสำเร็จทั้งในลีกเมืองผู้ดี และในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จนนักเตะชุดนั้นเป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั่วยุทธจักรลูกหนัง ส่วน แฮนเซ่น บอกได้คำเดียวหน้าแตกยับเยิน (จนทุกวันนี้ยังโดนล้อไม่เลิก)
อย่างไรก็ตาม เมื่อ “ป๋า” ใหญ่แห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตัดสินใจวางมือการการกุมบังเหียนเมื่อปี 2013 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่เคยได้เฉียดเข้าใกล้โทรฟี่สีเงินวาบวับอีกเลย แถมบางซีซั่นผลงานย่ำแย่พลาดโควตาไปลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกต่างหาก
สำหรับ “ปีศาจแดง” ในยุค โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ดูเหมือนว่าจะกลับมาสู่ปรัชญาที่ “เซอร์เฟอร์กี้” ได้สร้างเอาไว้ ด้วยการใช้ผู้เล่นพลังหนุ่มที่มาจากศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสร โดยมองว่านักเตะเหล่านี้เต็มไปด้วยพรสวรรค์ และกระหายความสำเร็จ
ฉะนั้นหาก แมนฯ ยูฯ เลือกที่จะให้แกนหลักเป็นบรรดาสายเลือดใหม่ผสมกับนักเตะที่มีอยู่ในปัจจุบัน และอาจจะมีการซื้อเพิ่มมาบาง งานนี้สาวก “ปีศาจแดง” อาจจะได้มองเห็นความยิ่งใหญ่กลับมายัง “โรงละครแห่งความฝัน” อีกครั้ง
การสร้างทีมจากแนวรับ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มมีเกมรับที่เข้ารูปเข้ารอย โดยพวกเขาเสียประตูน้อยกว่า เชลซี, อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้
ดาบิด เด เคอา อาจจะส่งสัญญาณบางอย่างว่าเขาไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่เหนียวหนึบเหมือนเมื่อก่อน ขณะเดียวกันอนาคตของเจ้าตัวก็ยังไม่แน่ไม่นอนแม้จะขยายสัญญากับ “ผีแดง” ไปแล้วเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าเขาจะอยู่โยงกับสโมสร
ด้วยเหตุนี้ ดีน เฮนเดอร์สัน ที่กำลังทำผลงานได้ดีเยี่ยมกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ขณะที่เล่นยืมตัวกับ “ดาบคู่” มีโอกาสที่จะกลับมายังสโมสรแม่ และสอดแทรกยึดตำแหน่งมือ 1 ของทีมในซีซั่นหน้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ โซลชา ว่าจะเอายังไงกับตำแหน่งนายทวาร
ในส่วนของแผงแบ็กโฟร์นำโดย อารอน วาน-บิสซาก้า กับ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ รับหน้าที่แบ็กขวา-ซ้ายตามลำดับ ซึ่งทั้งคู่ได้รับการยกย่องว่าเป็นฟูลแบ็กดาวรุ่งที่ดีที่สุดในยุโรป
ขณะที่ตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กเป็นของสองคู่หูจอมแกร่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ซึ่งดูแล้วทั้งสองคนน่าจะแก่ที่สุดสำหรับทีมชุดนี้ แต่เมื่อมองจากบัตรประชาชนพวกเขาอายุเพียง 27 กับ 25 ปี ตามลำดับกระนั้นพวกเขาถือว่าเป็นแนวรับที่มีประสบการณ์พอสมควร
ส่วนยางอะไหล่ในกรณีที่คนใดคนหนึ่งมีปัญหาบาดเจ็บหรือติดโทษแบน พวกเขายังมี อั๊กเซล ตวนเซเบ้ คอยทำหน้าที่แทน แต่กระนั้น โซลชา ยังมองว่านักเตะรายนี้มีอนาคตที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงในเกมรับของ “ผีแดง” เช่นกัน
ได้เวลาดาวรุ่งกำเนิด (อีกครั้ง)
มีหลายๆ สิ่งที่เตรียมจะเปลี่ยนแปลงสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะในแผงมิดฟิลด์ เพราะอาจจะถึงเวลาแล้วที่พลังหนุ่มจะก้าวขึ้นมาทดแทนนักเตะที่กำลังโรยรา หรือพ่อค้าแข้งบางคนที่ไม่ค่อยทุ่มเทให้กับทีม
ถึงแม้ “ผีแดง” จะตัดสินใจขยายสัญญากับ เนมานย่า มาติช ออกไป 1 ซีซั่นก็ตาม กระนั้น ดาวเตะเลือดเซิร์บ ไม่น่าที่จะเป็นนักเตะตัวหลักของทีมได้นานมากนัก แต่ประสบการณ์ของเขาน่าจะช่วยประคับประคองบรรดารุ่นน้องได้
เช่นเดียวกันในกรณีของ ปอล ป็อกบา ที่มีข่าวย้ายหนี “เร้ด เดวิลส์” โดยจุดหมายปลายทางอยู่กับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด หรือ “ม้าลาย” ยูเวนตุส แม้หลายคนอาจจะมองว่านักเตะกลับใจใหม่แล้ว หลังเห็น แมนฯ ยูฯ ในยุคโซลชา เริ่มพัฒนาขึ้น แต่กระนั้นหากทีมเกิดฟอร์มดร็อปอีก มีหวัง ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ คงไม่รีรอที่จะโบกมือลา
ส่วน สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่โชว์ฟอร์มเจิดจรัสนับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ และเป็นแข้งสำคัญของ “น้าลูกอม” แต่กระนั้นเขาก็ไม่ใช่นักเตะพรสวรรค์เพียงคนเดียวในแผงมิดฟิลด์ โดยตอนนี้แข้งที่กำลังได้รับการจับตามองเป็นพิเศษนั่นก็คือ ฮานนิบาล เมจบรี้ กองกลางเลือดเฟร้นช์ ที่เตรียมจะถูกดันขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลหน้า
ดาวเตะชาวฝรั่งเศส วัย 17 ปี สร้างความประทับใจให้กับบรรดาโค้ชในอะคาเดมี่ “ผีแดง” อย่างมากนับตั้งแต่ที่เขาย้ายจาก โมนาโก มาอยู่กับทีมด้วยค่าตัว 9.3 ล้านปอนด์ (ราว 353 ล้านบาท) เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
สำหรับตอนนี้มีการพูดคุยกันแล้วว่า เมจบรี้ จะได้เลื่อนจากทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี มาเล่นในทีมชุดใหญ่ ซีซั่น 2020/2021 นอกจากนี้ยังมีอีกรายที่น่าจับตามองนั่นก็คือ เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า กองกลางดาวโรจน์ จาก แรนส์ ที่ “เร้ด เดวิลส์” สนใจพร้อมทุ่มเงิน 25 ล้านปอนด์ (ราว 950 ล้านบาท) ดึงตัวมาร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย
แนวรุกเต็มกำลังสูบ
ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะคว้าตัว บรูโน่ แฟร์นันด์ส มาเสริมทัพให้ได้ สำหรับตอนนี้สาวก “เร้ด อาร์มี่” คงเห็นแล้วว่าทำไมพวกเขาจึงต้องการ ดาวเตะชาวโปรตุกีส รายนี้อย่างมาก
จอมทัพทีมชาติโปรตุเกส ทำหน้าที่เป็นมิดฟิลด์จอมสร้างสรรค์เกมได้อย่างสมบูรณ์แบบ และยังช่วยกระตุ้นบรรดาแข้ง “ผีแดง” ให้ยกระดับฝีเท้าขึ้นมาด้วย โดยฟอร์มการเล่นที่น่าอัศจรรย์นี้ ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนบอล แมนฯ ยูฯ ทั่วโลกไปแล้ว
ความฉลาด และความคิดสร้างสรรค์ในการทำเกม เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ฟอร์มของ “ปีศาจแดง” กระเตื้องขึ้นมาทันทีนับตั้งแต่ที่ แฟร์นันด์ส ย้ายมาสวมเครื่องแบบ “เร้ด เดวิลส์” ที่สำคัญเจ้าตัวยังเล่นได้อย่างเข้าขากับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ด้วย
ในขณะที่ตำแหน่งหน้าเป้าหลายคนอาจมองว่า อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล น่าจะได้รับความไว้วางใจจาก โซลชา แต่อย่างลืมว่า กุนซือชาวนอร์เวย์ ค่อนข้างจะประทับใจฝีเท้าของ เมสัน กรีนวู้ด มากๆ ในซีซั่นนี้ ฉะนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะได้รับโอกาสจากเจ้านายคนปัจจุบันให้ลงเล่นเป็นตัวหลัก
สำหรับตอนนี้ไม่มีใครปฎิเสธว่า กรีนวู้ด เป็นดาวรุ่งที่ฟอร์มร้อนแรงมากๆ ด้วยความรวดเร็ว, ทักษะสูง, ยิงได้เฉียบคมทั้งสองเท้า และเหมาะกับการเล่นหน้าเป้า ต้องยอมรับว่า “ไม้เขียว” มีองค์ประกอบครบทุกอย่างที่จะเป็นยอดดาวยิงของแมนฯ ยูฯ
ผลงานซัดไปแล้ว 14 ประตูในซีซั่นนี้ด้วยวัยเพียงแค่ 18 ปี น่าจะเป็นเครื่องหมายการันตีความคมของนักเตะรายนี้ได้เป็นอย่างดี และมีความเป็นไปได้สูงที่จะยิงประตูได้มากกว่านี้ หากเขาได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง
ส่วนคนสุดท้ายคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขา…เจดอน ซานโซ่ นี่คือนักเตะที่ แมนฯ ยูฯ ล็อกเป้าเอาไว้แล้วในช่วงซัมเมอร์นี้ โดย ดาวเตะเลือดผู้ดี วัย 20 ปี น่าจะเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายของทีม แต่งานนี้บอร์ดบริหารต้องใจถึงเพราะหากค่าตัวไม่ถึง 100 ล้านปอนด์ (ราว 3,800 ล้านบาท) คงยากที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะปล่อยตัวออกมา
กระนั้นหากมองถึงโอกาสที่จะเข้ามาเติบเต็มให้ “ผีแดง” กลายเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบ งานนี้พวกเขาต้องการทุ่มเพื่ออนาคตของสโมสร
ด้วยพลังหนุ่มผสมแข้งพรสวรรค์ และนักเตะมากประสบการณ์ หาก โซลชา สามารถนำทั้งหมดนี้คลุกเคล้าเข้าด้วยกัน อาจจะไม่เป็นการอวยเกินไปที่จะบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่นหน้า มีลุ้นมากว่าท็อปโฟร์ แน่นอน
อ่านข่าวอื่นๆ >>> UFABETWINS
เทคนิคดีๆที่เพิ่มกำไร คลิกเลย >>> https://www.joenamathcamp.com